X
Create
Sign in

  • Movies
  • TV Shows
  • Music
  • Speeches
  • Gaming
  • Education
  • Beauty
  • Sports
  • Technology
  • Science
  • Health
  • Travel
  • Transportation
  • Career & Work
  • Hobbies
  • Animals
  • Home & Garden
  • Holidays
  • Relationships
  • Parenting
  • Food
  • Culture
  • Finance
  • Business
  • Legal
  • Arts

อะไร ที่มองไม่เห็น มากกว่าที่คุณคิด - จอห์น ลอยด์

View full lesson on ed.ted.com ****** Gravity. The stars in day. Thoughts. The human genom...
Edit
811k views
1 editor
1 like
edited 1+ month ago
Home
Share on facebook Share on twitter Share on Google+
Tip: Highlight text to annotate itX
(เสียงดนตรี) งานคาร์นิวาล เท็ด แอนด์ เอ็ด เปิดทุกวัน ทั้งวัน วิ่งตรงจากทางด่วนกูเกิ้ล เจอยูทูบเลี้ยวซ้าย [คลังแห่งสิ่งที่เรามองไม่เห็น โดย จอห์น ลอย์ด] [แปลงจาก TED ทอล์ค โดย จอห์น ลอย์ด ในปี 2009] ผู้พูดคนถัดไปของเรา ใช้เวลาตลอดชีวิตการทำงานของเขา ค้นคว้าความรู้สึกนั้นที่น่าพิศวง ขอเสียงปรบมือต้อนรับ คุณ จอห์น ลอย์ด ค่ะ (เสียงปรบมือ) คำถามมีอยู่ว่า มีอะไรบ้างที่เรามองไม่เห็น? ที่จริงแล้ว มีมากกว่าที่คุณคิดนะ ถ้าเป็นผม ผมจะบอกว่า ทุกๆอย่างเลย ทุกๆอย่างที่สำคัญ ยกเว้นทุก "สิ่ง" และทุกอย่างที่ไม่ใช่สสาร เราสามารถมองเห็นสสารได้ แต่เราไม่สามารถมองเห็นได้ว่า สสารมันมีที่มาอย่างไร เรามองเห็นดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์ต่างๆ แต่เรามองไม่เห็นว่าอะไรคั่นกลางระหว่างพวกมัน หรืออะไรที่ดึงดูดดวงดาวเหล่านั้นเข้าหากัน คนก็เหมือนกัน เช่นเดียวกับสสาร เราเห็นแต่พื้นผิวภายนอกของสิ่งต่างๆ เรามองไม่เห็นห้องเครื่องภายใน เรามองไม่เห็นว่าอะไรที่ขับเคลื่อนผู้คน อย่างน้อยก็ไม่ได้เห็นได้ง่ายๆ และยิ่งเรามองทุกสิ่งอย่างใกล้ชิดเท่าใหร่ สิ่งต่างๆที่เรามองเห็นนั้น ก็มีแต่จะหายไป ที่จริง ยิ่งเรามองไปใกล้เท่าไหร่ เช่น เวลามองโครงสร้างพื้นฐานของสิ่งต่างๆ จะกลายเป็นว่า มันไม่มีตัวตน อิเล็กตรอนก็สลาย กลายเป็นก้อนพลังงาน ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นคือ บ่อยครั้งที่สิ่งเหล่านี้ มักเป็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจ แรงโน้มถ่วง ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามองไม่เห็น และเราไม่เข้าใจ มันเป็นสิ่งที่เรารู้จักน้อยที่สุด ในบรรดาอันตรกริยาพื้นฐานทั้งสี่ (ในทางฟิสิกส์) จัดเป็นแรงที่อ่อนที่สุด และไม่มีใครรู้ว่า ที่จริงแล้วมันคืออะไร ทำไมมันถึงอยู่ตรงนั้น เท่าที่เรารู้ เซอร์ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง เขาเคยเชื่อว่า พระเยซู มาสู่โลก เพื่อสับไก ให้แรงโน้มถ่วงทำงาน เขาเชื่อว่าพระเยซู มาเพื่อทำหน้าที่นี้ คนที่หลักแหลมอย่างนิวตัน ก็อาจผิดกันได้ อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะ (เสียงหัวเราะ) สติสัมปชัญญะ ที่ผมเห็นจากใบหน้าของทุกคน แต่ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณคิดอะไรอยู่ มันเจ๋งใช่ไหม มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ที่เราไม่สามารถอ่านความคิดของคนอื่นได้ ในขณะที่เราสามารถสัมผัสกัน หรือชิมรสกันได้ถ้าเราอยู่ใกล้กันมากพอ แต่อ่านใจไม่ได้ ผมว่ามันน่าสนใจนะ ในความเชื่อแบบ ซูฟี่ (Sufi) ศาสนาหนึ่งในตะวันออกกลาง ที่บางคนเชื่อว่าเป็นที่มาของศาสนาทั้งหลาย นักพรตซูฟี่ทุกคน ล้วนแล้วแต่เป็น ผู้มีญานหยั่งรู้ เค้่าว่ากันว่าอย่างนั้นนะ แต่หน้าที่หลักของพวกเขาคือการส่งข้อความพลังงานสูง ออกมาให้พวกเราเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่จริง นั่นก็คือสาเหตุที่พวกเราไม่เชื่อ ว่าญานหยั่งรู้เป็นเรื่องจริง นั่นคือสิ่งที่นักพรตซูฟี่ทำให้เราเชื่อ คำถามว่า สติปัญญาของมนุษย์ และปัญญาประดิษฐ์ นั้นต่างกันอย่างไร การศึกษาเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ก็เหมือนการศึกษา เรื่องสติสัมปชัญญะของมนุษย์ มันไปไม่ถึงไหน ตราบใดที่เรายังไม่ทราบว่า สติปัญญาของเราทำงานอย่างไร นอกจากที่เราไม่สามารถผลิตปัญญาประดิษฐ์ได้ เราก็ยังไม่สามารถผลิตความโง่ประดิษฐ์ได้เช่นเดียวกัน กฏของฟิสิกส์ สิ่งที่เรามองไม่เห็น เป็นอมตะ มีอยู่ทุกแห่ง และ มีพลังอำนาจเหลือล้น นึกถึงใครบ้างไหม? สิ่งที่น่าสนใจ อย่างที่คุณคงเดาได้ ผมไม่ใช่พวกวัตถุนิยม ผมเป็นพวกไม่นิยมวัตถุ และผมยังพบคำใหม่ที่เหมาะมาก ผมเป็นพวก ไม่สนใจ (ignostic) ผมปฏิเสธที่จะถูกดึงดูด ด้วยคำถามที่ว่า พระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่ จนกว่าจะมีใคร ให้คำจำกัดความของคำๆนั้นได้ อีกอย่างหนึ่งที่เรามองไม่เห็นก็คือ ยีน ของมนุษย์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดดี เพราะเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน เราเริ่มสนใจเกี่ยวกับพันธุกรรม ตอนแรกเราคิดว่ามนุษย์ยีน ประมาณหนึ่งแสนยีน แต่ทุกๆปีหลังจากนั้น เราก็แก้ไขให้มันลดลง ตอนนี้เราคิดว่าเรามียีน ประมาณ สองหมื่นยีน นั่นคือรหัสพันธุกรรมมนุษย์ ที่น่าประหลาดยิ่งไปกว่านั้นคือ ข้าว มีสามหมื่นแปดพันยีน มันฝรั่ง มีโครโมโซม 48 คู่ มากกว่าของคนอยู่สองคู่ ซึ่งเท่ากับโครโมโซมของกอริล่า (เสียงหัวเราะ) คุณไม่สามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ แต่พวกมันก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก ถ้าลองมองไปที่ดวงดาวในตอนกลางวัน จักรวาลก็ดูเหมือนจะหายไป ยิ่งมีแสงมากเท่าใหร่ คุณก็ยิ่งมองเห็นได้น้อยลง เวลา ไม่มีใครสามารถมองเห็นเวลาได้ ไม่รู้ว่าคุณทราบหรือเปล่า แต่นักฟิสิกส์สมัยใหม่ มีแนวคิดเกี่ยวกับฟิสิกส์สมัยใหม่ เพื่อตัดสินว่าเวลาไม่ได้มีอยู่จริง เพราะมันไม่สะดวกที่จะนำมาคำนวนเป็นตัวเลข มันจะเป็นการง่ายกว่ามาก ถ้ามันไม่มีอยู่จริง คุณไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้ ก็ทราบกันดีอยู่ และคุณก็ไม่สามารถมองเห็นอดีตได้ ยกเว้นในความทรงจำของคุณ สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับอดีตก็คือ คุณไม่สามารถมองเห็นอดีตของคุณเองได้ ลูกชายผมถามผมเรื่องนี้เมื่อวันก่อน เขาว่า พ่อครับ พ่อจำได้ไหมว่าผมเป็นยังไงตอนสองขวบ ผมตอบว่า จำได้สิ แล้วเขาก็ต่อว่า แล้วทำไมผมจำไม่ได้ มันน่าประหลาดใช่ไหม เราจำไม่ได้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ในช่วงที่คุณอายุน้อยกว่าสองหรือสามขวบ ซึ่งนั่นเป็นข่าวดีของนักจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ เพราะถ้าทุกคนจำได้ พวกเขาก็คงจะตกงาน เพราะวัยเด็กคือที่ๆ เป็นสาเหตุของทุกอย่าง (เสียงหัวเราะ) ที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่เรามองไม่เห็นก็คือ ความเจริญเติบโตของตัวเราเอง มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง พวกคุณ บางคนอาจจะรู้อยู่แล้ว ว่าเซลล์ของเรานั้น มีการสร้างใหม่อยู่เสมอ ผิวหนังแตกออกเป็นเกล็ด ผมยาว เล็บยาว อะไรอย่างนั้น เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเรา ถูกสร้างขึ้นใหม่ แทนของเก่าทุกช่วง ต่อมรับรส ถูกสร้างใหม่ทุกๆ สิบวัน ตับและอวัยวะภายในก็กินเวลานานกว่านั้นหน่อย กระดูกสันหลังใช้เวลาหลายปี แต่ภายในช่วงเวลาเจ็ดปี จะไม่มีเซลล์ใดเลยในร่างกายเรา ที่ยังคงเป็นของเดิมจากเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว คำถามคือ แล้วอย่างนั้นเราคืออะไร? พวกเราเป็นใคร? อะไรคือสิ่งที่เราควรยึดถือ? ตัวเราที่แท้จริงคืออะไร? เรามองไม่เห็นอะตอม และก็คงไม่มีใครเคยเห็น มันเล็กกว่าคลื่นแสง ก๊าซ เรามองไม่เห็นมันเหมือนกัน แต่น่าสนใจที่ มีคนเพิ่งพูดถึงปี 1600 เมื่อไม่นานมานี้ ก๊าซ ถูกค้นพบในปี 1600 โดยนักเคมีชาวดัตช์ ที่ชื่อ แวน เฮลมอนต์ มันถูกเรียกว่าเป็นการค้นพบที่ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยคนคนเดียว เก่งไม่เบาเลย เขายังเป็นที่รู้จัก จากการคิดค้นคำว่า "บลาส" (blas) ที่หมายถึงการแผ่รังสีของดวงดาวด้วย แต่ก็น่าเสียดาย ที่มันไม่เป็นที่นิยม (เสียงหัวเราะ) แต่เขาก็ทำได้ดีนะ แสงสว่าง คุณมองไม่เห็นแสงสว่าง เมื่อเราอยู่ในห้องสูญญากาศมืดๆ ถ้ามีใครฉายลำแสงเข้ามา ผ่านตาของเรา เราก็มองไม่เห็นลำแสงนั้นอยู่ดี มันเป็นเรื่องทางเทคนิคนิดหน่อย นักฟิสิกส์บางคนจะไม่เห็นด้วย แต่มันก็แปลกที่เรามองไม่เห็นลำแสง เรามองเห็นแต่วัตถุที่มันตกกระทบ ไฟฟ้า เราก็มองไม่เห็น อย่าเชื่อถ้ามีใครมาบอกว่าเขา เข้าใจเรื่องกระแสไฟฟ้า พวกเขาไม่เข้าใจหรอก เพราะไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร (เสียงหัวเราะ) คุณอาจจะคิดว่า มันคืออิเล็กตรอน ที่เดินทางในสายไฟ ไหลมาตามสายไฟ ด้วยความเร็วแสง เวลาที่เราเปิดไฟ จริงไหม? ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น อิเล็กตรอนน่ะ ไหลเอื่อยๆมาตามสาย ความเร็วพอๆกับ น้ำผึ้งไหลช้าๆ กาแล็กซี เป็นพันล้านระบบ ที่เราเคยคาดเดากันไว้ ว่ามีอยู่กว่าแสนล้านกาแล็กซีในเอกภพ แต่เราสามารถมองเห็นด้วยสายตาได้กี่อัน ห้าอันเท่านั้น ห้าจากทั้งแสนล้าน แถมหนึ่งในห้าอันนั้นยังมองเห็นได้ยากหน่อย ยกเว้นว่าคุณสายตาดีมากๆ คลื่นวิทยุ เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เรามองไม่เห็น เฮ็นริก เฮิร์สท์ กล่าวไว้ ในปี 1887 ที่เขาค้นพบคลื่นวิทยุ เขาเรียกมันว่าคลื่น เพราะมันแผ่ออกไปเหมือนรังสี มีใครบางคนพูดกับเขาว่า แล้วมันมีไว้ทำไมเหรอ เฮ็นริก? เราจะเอามันไปใช้ทำอะไร ไอ้สิ่งที่คุณค้นพบนี้น่ะ? เขาตอบว่า ผมก็ไม่รู้ แต่สักวันนึงมันคงมีประโยชน์ล่ะ สิ่งที่เรามองไม่เห็น มักเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่เราไม่รู้จัก มันน่าทึ่งมากที่เราพึ่งรู้ว่า เรารู้น้อยแค่ไหน โธมัส เอดิสัน เคยกล่าวไว้ว่า เรารู้ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ของหนึ่งในล้าน ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ผมจึงได้บทสรุปที่ว่า ด้วยการถามคำถามเหล่านี้ เราก็ได้พบกับคำถามใหม่ แล้วยังมีอะไรอีก ที่เรามองไม่เห็น พวกคุณส่วนใหญ่อาจจะถามว่า แล้วไงต่อ? ประเด็นคือ เราควรถามตัวเองด้วยคำถามสองคำถาม เราเกิดมาทำไม และเราควรทำอะไร ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่นี้ เพื่อช่วยบอกใบ้ ผมมีคำพูดสั้นๆ จากนักปราชญ์สองคนมอบให้พวกคุณ ทั้งสองคนนี้เป็นนักคิดที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 คนหนึ่งเป็นนักคณิตศาสตร์และวิศวกร ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นนักกวี คนแรกคือ ลุดวิก วิกเกนสไตน์ เขากล่าวไว้ว่า "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราเกิดมาทำไม แต่ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ไม่ใช่เพื่อสนุกสนานไปวันๆ" เขาเป็นคนมีสีสันดีนะ ว่าไหม (เสียงหัวเราะ) ส่วนสุดท้าย จาก ดับเบิลยู เอช ออเดน หนึ่งในกวีคนโปรดของผม เขากล่าวไว้ว่า "เราอยู่บนโลกใบนี้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ส่วนคนอื่นๆจะอยู่ไปเพื่ออะไรนั้น ผมไม่รู้หรอก" [ รับรูปถ่ายที่ระลึกได้ที่นี่ และเชิญเดินทางต่อไปยังดินแดนที่เราไม่รู้จัก! ]
Activity
  • Activity
  • Annotations
  • Notes
  • Edits
Sort
  • Newest
  • Best
Sommai liked this1+ month ago
deicy annotated1+ month ago

View full lesson on ed.ted.com ****** Gravity. The stars in day. Thoughts. The human genom... ...

Permalink Edit Editors
Share

Share this annotation:

deicy edited1+ month ago

อะไร ที่มองไม่เห็น มากกว่าที่คุณคิด - จอห์น ลอยด์

English Worldwide About Copyright Privacy Terms
© 2023 Readable
Photos Media Bookmark
X Annotate