Tip:
Highlight text to annotate it
X
คำถาม: หลังจากประทับจิตและเริ่มฝึกทำสมาธิแล้ว พวกเราจะต้องทิ้งความเศร้าโศก เสียใจ รัก เกลียด หลง และนิสัยไม่ดีอื่นๆไหมครับ
พระอาจารย์รูมา: ไม่จำเป็น ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ความทุกข์คือต้นโพธิ์ ไม่จำเป็นต้องไปทิ้งมัน
แล้วใครจะรับความเศร้าโศกของท่านล่ะ?
มันเป็นของท่าน แล้วท่านจะโยนมันไปให้ใคร?
เห็นแก่ตัวนะ ท่านโยนความทุกข์ของตัวเองไปให้คนอื่น แล้วพวกเขาจะเป็นอย่างไรล่ะ?
เข้าใจหรือยัง? มันไม่ดี ท่านต้องยอมรับอะไรก็ตามที่เป็นของท่านเอง
ความสนุกสนาน ความโกรธ ความรัก เพลิดเพลินยินดี ความโลภ ความเกลียด ความหลงต่างเป็นมายา มันไม่จริง
มันเหมือนจริงแต่เป็นภาพลวงตาเท่านั้น
พวกท่านอาจเห็นความรู้สึกเหล่านี้ แต่มันไม่จริง เข้าใจไหม?
มันซ่อนอยู่ในสมองของท่าน มันเป็นภาพลวงตา มันเหมือนตอนที่ท่านขับรถบนถนนใหญ่
แสงแดดหน้าร้อนส่องประกายแล้วพวกท่านอาจเห็นบนถนนข้างหน้ามีแอ่งน้ำ
พอขับรถเข้าไปใกล้ๆ เหมือนกับมันอยู่ข้างหน้า
เห็นไหม? แอ่งน้ำก็หายไป พอเข้าไปใกล้ๆ มันก็ไม่อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป
มันก็เหมือนกับความรู้สึกของท่านนั่นแหละ สนุกสนาน โกรธ รัก ยินดี โลภ เกลียด หลงต่างก็เหมือนกัน มันไม่ใช่ความจริง มันเป็นภาพหลอน
ไม่เป็นความจริง เข้าใจไหม?
พวกท่านอาจรู้สึกว่าท่านโกรธ โลภ เกลียด แต่ไม่ใช่หรอก
มันเป็นมายาเท่านั้น มันเหมือนอยู่ตรงหน้าท่านต่อหน้าต่อตา ถ้าท่านอยากพิสูจน์ ก็ให้ทำจิตใจให้สงบ
แล้วท่านจะเห็นว่ามันไม่จริง
มันไม่มีอะไรหรอก เป็นแค่สิ่งลวงตา ไม่เป็นความจริง พวกท่านเข้าใจไหม?
เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องโยนมันทิ้งไป ไม่ต้องเก็บมาคิด ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
ท่านก็ปฏิบัติธรรมไป รวมศูนย์ที่ตาปัญญาและทำสมาธิ
ถ้าภาพลวงตาเข้ามาเราก็ให้มันเข้ามา ถ้ามันไปก็ปล่อยให้มันไป เพราะว่าสิ่งลวงตาเหล่านี้มันมาแล้วก็ไป มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
มันไม่จริง พวกท่านเข้าใจที่พระอาจารย์พูดไหม?
เพราะฉะนั้น ความรู้สึกทุกอย่างทั้งความอยากได้อยากมี ความเกลียด ความหลง ความสนุก ความโกรธ ความรัก ความยินดีต่างก็เป็นสิ่งลวงตา เป็นภาพหลอน เป็นมายาเท่านั้น