Tip:
Highlight text to annotate it
X
เดือนกรกฎาคม 2527 มีคนพบศพเด็กหญิงอายุ 9 ขวบเปลือยท่อนล่าง
บริเวณป่าใกล้เคมบริดจ์ รัฐแมรีแลนด์
ในสภาพถูกข่มขืนและทุบตีจนเสียชีวิต
ตำรวจได้เผยแพร่ภาพสเกตช์คนร้าย
จากปากคำของเด็กชายสองคน ที่เห็นชายคนหนึ่งเดินอยู่กับเด็กหญิง
และจำได้ว่าชายคนนั้นดูคล้ายอดีตนายทหารเรือเคิร์ก บลัดส์เวิร์ธ
เคิร์กถูกจับกุมตัว และไม่มีพยานที่อยู่ที่ชัดเจน
เขาเรียกร้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์
แต่เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล ห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องยินดี
เมื่อเขาถูกตัดสินว่าผิดจริง และต้องโทษประหารชีวิตด้วยการรมแก๊ส
ปี 2534 หลังจากได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับศาสตร์ใหม่อย่าง DNA
ทีมทนายความของเคิร์กได้จัดการนำตัวอย่างน้ำอสุจิที่เก็บไว้จากที่เกิดเหตุมาทดสอบ
ซึ่งช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของเขา
และเขาคือนักโทษประหารคนแรกที่ได้รับการปล่อยตัวด้วยหลักฐาน DNA
กระทั่งปี 2546 จึงพบฆาตกรตัวจริง
เป็นนักโทษคดีล่วงละเมิดเด็กซึ่งเป็นที่รู้จักดี
และได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนเหตุฆาตกรรม
ผมได้ยินเรื่องคดีฆาตกรรมดอว์นจากข่าว
คุณก็รู้ เรื่องนี้มันแย่และเลวร้ายมาก
ไม่มีคนปกติที่ไหนจะชั่วร้ายขนาดทำกับเด็กคนนั้นได้แบบนี้
ผมถูกสอบสวนเรื่องนี้เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2527
และบอกไปแล้วว่าผมไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย
ตี 02.45 น. วันต่อมาก็มีเสียงโครม โครม โครม
ทุบใส่ประตูบ้านญาติผม
ใครสักคนพูดขึ้นมา
"ออกมาด้านนอกคุณบลัดส์เวิร์ธ คุณถูกจับกุมฐานฆาตกรรม ดอว์น เวนิซ แฮมิลตัน โดยเจตนา ไอ้เหี้ย"
เขาฟ้องผมทุกข้อหาเท่าที่มี
ฆาตกรรมโดยเจตนา ล่วงละเมิดทางเพศ
ข่มขืนกระทำชำเรา ผิดทุกข้อหาที่ว่าไป
ผมยืนอยู่ตรงนั้น หน้าแดงเข้มเท่าที่คุณจะนึกให้แดงได้
โกรธจนแทบคลั่ง
พ่อผมพยายามยกมือค้านผู้พิพากษา
แน่ล่ะว่าไม่ช่วยอะไร
ส่วนแม่ก็ได้แต่ร้องไห้
พวกเขาจับผมเข้ากรง
แล้วประตูหนัก 300 กว่าปอนด์ก็ปิดเปรี้ยงเข้ามา
เหมือนกับท้ายรถขนขยะ
ผมแตะกำแพงพร้อมกันสองข้างได้แค่กางมือแบบนี้
แบบนี้เลย บวกลบไม่เกินข้างละหนึ่งนิ้ว
ผมได้ยินคำพูดเหยียดหยามข่มขู่ตลอดเวลาอยู่ในนั้น คงพอนึกออก
มึงโดนแน่ไอ้เคิร์ก
กูจะเอาแบบที่มึงทำกับเด็กนั่น
ผมปิดทุกอย่างเลยตอนนั้น
ไม่รู้ว่าจะทำไงต่อ มีแต่ความรู้สึกท่วมท้นขึ้นมา
ซุกหน้าลงกับผ้าห่ม
แล้วก็ร้องไห้จนหลับไป
ผมคอยบอกทุกคนว่าผมบริสุทธิ์
แต่มันก็เหมือนคุณอยู่ในห้องเก็บเสียง
แล้วคนอื่นๆ อยู่ข้างนอกกันหมด
มีแต่คุณอยู่ข้างใน ตะโกนร้องแล้วทุบหน้าต่างไปเรื่อยๆ
พยายามจะบอกคนอื่น
แล้วก็มีแต่คนเดินผ่านเหมือนคุณไม่อยู่ตรงนั้นด้วยซ้ำ
ความศรัทธานี่สำคัญนะ
คุณบริสุทธิ์ คุณพิสูจน์ข้อนี้ได้
เพียงแต่มันใช้เวลา
ผมได้หนังสือที่เล่าเรื่องการใช้ DNA ครั้งแรกในคดีอาชญากรรม
นั่นแหละผมถึงเห็นทางสว่าง
ถ้ามันเอาผิดเราได้ ทำไมจะปล่อยเราไม่ได้ล่ะ?
ผมเริ่มทบทวนความจำ
"พบคราบน้ำอสุจิ" เขียนไว้ในรายงาน ในสไลด์
ทนายผมควักเนื้อจ่ายค่าทำเรื่อง DNA
สัก 10,000 เหรียญฯ ได้
โดยที่ไม่เคยทวงเงินจากผมสักบาท
ผมนั่งอยู่ในห้องขัง จนถึงสักราวๆ สิ้นเมษา ปี 2536
ผู้คุมเอาโพสต์อิทมาแปะหน้าห้องผม
เขียนว่า "ด่วน โทรหาทนาย ด่วน"
ผมต่อสายแล้วเขาก็ได้แต่ตะโกนมา
"เคิร์ก นายบริสุทธิ์ นายรอดแล้ว!"
ผมบอกว่าข้อนั้นผมรู้แล้ว แล้วเมื่อไหร่จะได้ออกไปจากนี่เสียที
เรื่องของผมไม่ได้แปลกประหลาดอะไร
มีแค่ 18 คนในหมู่พวกเราที่ได้ทดสอบ DNA ตามกระบวนการ
จากราวๆ 142 คนได้
และในคดีส่วนใหญ่ก็ไม่มี DNA
หรือต่อให้มี พวกนั้นก็ไม่ยอมให้คุณได้ทดสอบ
เราจะมาทำตัวเป็นตัวขัดขวางไม่ได้ ถูกมั้ย
มาขวางการทดสอบ DNA แบบนี้ เพราะมันกระทบทุกคน
ความรู้สึกที่ครอบครัวของดอว์น แฮมิลตัน ตอนนั้นที่คิดว่าลูกสาวของพวกเขาได้รับความยุติธรรม
กลายเป็นเรื่องโกหก
ความเจ็บปวดรวดร้าวที่พ่อแม่ผมต้องเจอ
มันเลวร้ายมาก
เพราะใครๆ ก็พูดกันปากต่อปากว่าลูกของพวกเขาเป็นปีศาจ