ทำไมเรา ไม่สามารถมองเห็น หลักฐาน ของสิ่งมีชีวิต ต่างดาว? - คริส แอนเดอ

[ดนตรี] บางแห่งข้างนอกนั่น ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ต้องมีดาวเคราะห์นับไม่ถ้วน ที่มีสิ่งมีชีวิตอย่างแน่นอน แต่ทำไมเราจึงไม่พบร่องรอยใดๆ ของมัน? นี่คือคำถามอันเลื่องลือของ เอ็นริโค เฟอร์มี่ ใน ค.ศ. 1950 "คนที่เหลืออยู่ไหน?" พวกนักทฤษฎีสมคบคิดอ้างว่า มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกตลอดเวลา เพียงแต่รายงานต่างๆ ถูกปกปิดไว้ แต่โดยสัตย์จริงแล้ว มันไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย แต่มันทิ้งปริศนาที่แท้จริงเอาไว้ ในปีที่ผ่านมา กล้องโทรทรรศน์อวกาศเคปเลอร์ได้ค้นพบ ดาวเคราะห์นับร้อยๆ ดวงที่อยู่รอบๆ ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้เคียง และถ้าคุณประมาณค่าออกมา น่าจะมีดาวเคราะห์ถึงห้าแสนล้านดวง ที่อยู่ในดาราจักรของเราเท่านั้น ถ้าหนึ่งในดาวเคราะห์ 10,000 ดวง มีปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่อาจสนับสนุนรูปแบบของสิ่งมีชีวิต นั่นหมายความว่า มีดาวเคราะห์ 50 ล้านดวง ซึ่งอาจมีสิ่งมีชีวิต อยู่ที่นี่ ในทางช้างเผือก ดังนั้น นี่คือปริศนา โลกของเราไม่ได้ก่อตัวขึ้น จนกระทั่งประมาณ 9 พันล้านปี หลังจาก Big *** ดาวเคราะห์นับไม่ถ้วนในดาราจักรของเรา น่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และให้โอกาสสิ่งมีชีวิตเริ่มต้นขึ้น เป็นพันล้าน หรือหลายๆ ล้านปี ก่อนหน้าที่จะเกิดขึ้นบนโลก ถ้าดาวเคราะห์เพียงไม่กี่ดวง ได้สร้างสิ่งมีชีวิตที่เชาวน์ปัญญาขึ้น และเริ่มต้นสร้างสรรค์เทคโนโลยี เทคโนโลยีเหล่านั้นจะมีเวลาเป็นหลายล้านปี ที่จะเจริญก้าวหน้าอย่างสลับซับซ้อนและเปี่ยมอานุภาพ เพราะบนโลกของเรา เราได้เห็นถึงความน่าตื่นตาตื่นใจ ที่เทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้า อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 100 ปี ในหลายล้านปี อารยธรรมของสิ่งมีชีวิตต่างดาว ที่เปี่ยมเชาวน์ปัญญา ย่อมสามารถแพร่กระจายข้ามดาราจักรได้โดยง่าย อาจกำลังสร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมพลังงานขนาดยักษ์ก็ได้ หรือกองยานรบอวกาศเพื่อล่าอาณานิคม หรืองานศิลปะน่าประทับใจต่างๆ ที่เติมเต็มท้องฟ้ายามราตรี อย่างน้อยที่สุด คุณคงคิดว่าพวกเขาน่าจะแสดงให้รู้ ถึงการดำรงอยู่ของพวกเขา อย่างสุขุมรอบคอบ หรืออีกทางหนึ่ง ก็ผ่านสัญญานแม่เหล็กไฟฟ้า ชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่เราก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ ที่กล่าวมาอยู่ดี ทำไมล่ะ? มีมากมายหลายคำตอบที่เป็นไปได้ บางคำตอบก็ลึกลับทีเดียว บางทีอารยธรรมสุดยอดเชาวน์ปัญญาเพียงหนึ่งเดียว ได้เข้าควบคุมเหนือดาราจักรแล้วจริงๆ และได้ออกกฎเกณฑ์ห้ามการสื่อสารด้วยคลื่นวิทยุ เพราะพวกเขาเกิดวิตกจริตต่อคู่แข่งที่มีศักยภาพ พวกเขาแค่รออยู่ที่นั่น พร้อมทำลายสิ่งใดๆ ที่กลายเป็นภัยคุกคามให้สิ้นซาก หรือบางทีพวกเขาไม่ใช่ผู้เปี่ยมเชาวน์ปัญญา หรือ บางทีวิวัฒนาการของเชาวน์ปัญญา ที่สามารถสรรสร้างเทคโนโลยีที่ฉลาดล้ำเลิศ ยังอยู่ห่างไกลเกินกว่าที่เราทึกทักเอาเอง โลกอาจเป็นที่เดียวที่เกิดขึ้นใน 4 พันล้านปีที่ผ่านมา บางทีมันเป็นเพียงโชคดีอย่างเหลือเชื่อ บางทีพวกเราอาจเป็น อารยธรรมแรกเช่นนั้นในดาราจักรของเรา หรืออาจเป็นอารยธรรมที่นำติดตัวมันไป พร้อมเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างตนเอง เนื่องจากไม่สามารถควบคุม เทคโนโลยีที่ตนเองสร้างขึ้น แต่ยังมีคำตอบที่ให้ความหวังอีกมากมาย แรกเลย เรายังพยายามไม่มากพอในการค้นหา และเราจ่ายเงินเพียงน้อยนิดในการค้นหา เพียงเศษเสี้ยวส่วนน้อยของดวงดาวในดาราจักรของเรา ที่เราได้ค้นหาสัญญาณต่างๆ ที่น่าสนใจอย่างใกล้ชิด และเราอาจจะค้นหาผิดทิศทาง บางที ขณะที่อารยธรรมพัฒนาขึ้น พวกเขาค้นพบเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่ก้าวล้ำนำหน้า และมีประโยชน์มากกว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า บางทีทุกการกระทำเกิดขึ้น ภายในสสารลึกลับที่เพิ่งค้นพบ หรือพลังงานเร้นลับที่ปรากฏขึ้น เพื่ออธิบายมวลของจักรวาลส่วนใหญ่ หรือบางทีเราอาจค้นหาในขนาดที่ผิด บางทีอารยธรรมเปี่ยมเชาวน์ปัญญาได้ตระหนักว่า ท้ายที่สุด ชีวิตคือแบบแผนซับซ้อนของข้อมูลข่าวสาร สื่อสารระหว่างกันในวิถีทางที่สวยงาม และนั่นสามารถเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพในขนาดเล็ก ดังนั้น หากโลกเปรียบเสมือน ระบบสเตอริโอที่ใหญ่เทอะทะ ชีวิตเปี่ยมเชาว์ปัญญาอาจได้ย่อขนาดลง เป็นไอพอดที่เล็กกะทัดรัดและสวยงาม เพื่อที่จะลดขนาดเนื้อที่ของมันเองในสภาพแวดล้อม เปลี่ยนตัวมันเองให้เล็กลงจนมองแทบไม่เห็น ดังนั้นระบบสุริยะอาจมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอาศัยอยู่ เพียงแต่เราไม่สังเกตเห็นพวกเขา บางทีความนึกคิดที่แท้จริงในหัวของเรา คือรูปแบบของชีวิตต่างดาว นั่นเป็นความคิดที่เพี้ยนสุดๆ พวกต่างดาวทำให้ผมพูดอย่างนั้น แต่มันสุดยอดที่ความนึกคิดต่างๆ ดูเหมือนมีชีวิตทั้งหมดของมันเอง และพวกมันอายุยืนกว่าผู้สร้างมันเสียอีก บางที ชีวิตในแง่ชีววิทยาเป็นเพียงการผ่านขั้นตอน ภายใน 15 ปีข้างหน้า เราจะเริ่มพบเห็นข้อมูล ในระดับแถบพลังงาน (spectroscopic) ที่แท้จริง จากดาวเคราะห์ใกล้เคียงที่อาจทำให้รู้ว่า มัน "พร้อมสำหรับชีวิต" มากแค่ไหน และขณะเดียวกัน SETI สถาบันเพื่อการค้นหาสิ่งมีชีวิตที่ เปี่ยมเชาวน์ปัญญานอกโลก ก็กำลังเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ เพื่อว่าประชากรนักวิทยาศาสตร์เป็นล้านๆ คน รวมถึงคุณด้วย สามารถดึงพลังของมวลชนเพื่อร่วมกันค้นหา และบนโลกใบนี้ มีการทดลองที่น่าตื่นเต้น กำลังถูกดำเนินการอยู่ เพื่อพยายามสร้างชีวิตขึ้นมาจากสิ่งแปลกใหม่ ชีวิตที่อาจแตกต่างอย่างมากมาย จากรูปแบบ DNA ที่เรารู้จัก ทั้งหมดนี้จะช่วยเราให้เข้าใจว่า จักรวาลนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นหรือไม่ หรือจริงๆ แล้ว มีแต่พวกเรา คำตอบใดคำตอบหนึ่ง ในหนทางของมันเอง เป็นแรงบันดาลใจที่น่านับถือ เพราะแม้มีลำพังเพียงพวกเรา ความจริงที่เราคิดและฝัน และตั้งคำถามเหล่านี้ อาจกลับกลายเป็นข้อเท็จจริง ที่สำคัญประการหนึ่งเกี่ยวกับจักรวาล และผมยังมีข่าวดีอีกข่าวหนึ่งสำหรับคุณ การแสวงหาความรู้ และความเข้าใจไม่เคยทำให้เบื่อ โดยแท้จริงมันกลับเป็นตรงกันข้าม ยิ่งคุณรู้มากขึ้นเท่าไร คุณก็จะประหลาดใจกับโลกที่ปรากฏมากขึ้น และมันเป็นความเป็นไปได้ที่น่าคลั่งไคล้ เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ ที่ฉุดดึงเราไปข้างหน้า ดังนั้นอย่าหยุดสงสัยใคร่รู้