Tip:
Highlight text to annotate it
X
พุทธพจน์ .....ผู้บริโภคกามแต่ไม่จมกามนั้นมีอยู่
ภิกษุทั้งหลาย! ส่วนชนเหล่าใด จะเป็นสมณะหรือพราหมณ์ก็ตาม
ไม่ติดใจ ไม่สยบอยู่ ไม่เมาหมกอยู่ ในกามคุณห้าเหล่านี้แล้ว
มองเห็นส่วนที่เป็นโทษอยู่ เป็นผู้รู้แจ่มแจ้งในอุบาย
เป็นเครื่องออกไปจากทุกข์ บริโภคกามคุณทั้งห้านั้นอยู่
ชนเหล่านั้น อันคนทั้งหลายพึงเข้าใจได้อย่างนี้ว่า
เป็นผู้ไม่ถึงความพินาศย่อยยับไป
ตามความประสงค์ของมารผู้มีบาปแต่อย่างใด ดังนี้.
เอสาหัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตัมปิ
ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ
ปัพพัชชัง มัง ภันเต สังโฆ ธาเรตุ
อัชชะตัคเค ปาณุเปตัง สะระณัง คะตัง
ทุติยัมปาหัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตัมปิ
ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ
ปัพพัชชัง มัง ภันเต สังโฆ ธาเรตุ
อัชชะตัคเค ปาณุเปตัง สะระณัง คะตัง
ตะติยัมปาหัง ภันเต สุจิระปะรินิพพุตัมปิ
ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ
ปัพพัชชัง มัง ภันเต สังโฆ ธาเรตุ
อัชชะตัคเค ปาณุเปตัง สะระณัง คะตัง
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง
อามะ ภันเต
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนา ทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนา ทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฺฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฺฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา
มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา
เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา
มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา
เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ
อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ
ภิกษุทั้งหลาย!เปรียบเหมือนเนื้อป่าตัวที่ไม่ติดบ่วง
แม้นอนจมอยู่บนกองบ่วง มันก็เป็นสัตว์ที่ใคร ๆ พึงเข้าใจได้ว่า
เป็นสัตว์ที่ไม่ถึงความพินาศย่อยยับไป
ตามความประสงค์ของพรานแต่อย่างใด
เมื่อพรานมาถึงเข้า มันจะหลีกหนีไปได้ตามที่ต้องการ ดังนี้
ฉันใดก็ฉันนั้น.
มู. ม. ๑๒/๓๓๓-๓๓๕/๓๒๗-๓๒๘.