Tip:
Highlight text to annotate it
X
เรามักได้ยินว่าการเรียนวรรณคดี
คือเรียนเกี่ยวกับวิธีการอ่านเอาความหมายเชิงลึก จากตัวบทความ
เมื่อเราเขียนงานวรรณกรรมต่างๆ
เราคาดหวังที่จะดำดิ่งลงไปใต้ผิวน้ำ
เพื่อไปขุดเอาประเด็นความคิดสำคัญๆขึ้นมา
แต่คุณอาจจะพบว่าตัวคุณกำลัง
มองหน้ากระดาษแบนราบนั้น
แล้วสงสัยว่า เราจะลงไปได้ลึกแค่ไหนกัน
เราจะดำลงไปถึงแนวคิดเหล่านั้น แล้วเอามันมาเขียน เป็นบทความชิ้นเยี่ยมได้หรือ
คร่าวๆ มันประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญสองขั้นตอน
ที่จะพาเราไปถูกทาง
นั่นคือการฝึกการมองอย่างลึกซึ้ง
และรับรู้ถึงความซับซ้อน
การมีความลึกซึ่งคือความสามารถ
ที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงประเด็นหลักได้เอง
ด้วยการเก็บคำใบ้เล็กๆน้อยๆ จนกว่าจะไปถึงแนวคิดนั้น
ถ้าคุณกำลังฝึกตัวเองให้มีความเข้าใจสิ่งต่างๆอย่างลึกซึ้ง
คุณอาจจะใช้การสังเกตุ
พฤติกรรมต่างๆของตัวละคร เป็นวิธีที่ช่วยให้
เราเข้าถึงอารมณ์ หรือ แรงจูงใจที่แท้จริง ของตัวละครนั้น
สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ
เพราะมันมักจะรวมกันเป็นสิ่งที่มีความหมายและสำคัญ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณลองพิจารณาตัวละครอย่าง
คุณ ดาร์ซี (จากเรื่อง: Pride and Prejudice-สาวทรงเสน่ห์)
ซึ่งแสดงออกด้วยการพูดอย่างชัดเจนว่า เขาไม่ชอบ ลิซซี่ เบนเน็ต
ในตอนแรก คุณอาจจะคิดไปว่า เขาเป็นคนใจร้าย
แต่ด้วยการใช้พลังแห่งการวิเคราะห์
คุณก็จะสังเกตเห็นสิ่งเล็กๆน้อยๆอื่นๆ
เช่นการที่สายตาของดาร์ซี่ มักจะวนเวียน อยู่ที่ใบหน้าของลิซซี่
และ การที่เขาดูจะสับสนปั่นป่วนทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้
เมื่อรวมกับความเข้าใจที่ว่า คุณดารซี่นั้น
อยู่ในชนชั้นที่สูงกว่าลิซซี่
ความรู้สึกในการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งจะบอกกับคุณว่า
มันมีอะไรมากกว่าที่เห็น
ในกรณีนี้ มันบอกคุณว่า
พฤติกรรมภายนอกของดารซี่นั้นเป็นการกระทำที่ขัดแย้ง
กับความรู้สึกจริงๆ ที่เขารู้สึกสนใจลิซซี่
แต่ด้วยความแตกต่างระหว่างชนชั้นของเขากับลิซซี่
ทำให้เข่ารู้สึกว่า มันคงไม่มีทางเป็นไปได้
เมื่อคิดดูจาก จุดบอกใบ้เล็กๆน้อยๆเหล่านั้น
เราก็จะเข้าใจถึงแนวคิดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในนวนิยาย
ซึ่งเราก็จะสามารถนำมาเขียนเป็นเรียงความได้
เช่นหัวข้อเรื่อง รูปร่างหน้าตาภายนอก กับความเป็นจริง(ภายใน)
หรือหัวข้อเกี่ยวกับ อำนาจของความรวย และ การแบ่งแยกชนชั้นทางสังคม
หรือเรื่อง ธรรมชาติที่คาดเดาได้ยากของความรักและการมีคู่
ลองดูซะก่อน นี่แหละความหมายในเชิงลึก
ขั้นตอนที่สอง ของการวิเคราะห์อย่างล้ำลึก
ก็คือการเข้าใจความซับซ้อน
ยอมรับเถอะว่า ทั้งในชีวิตของเรา และในวรรณกรรมต่างๆ
สถานการณ์ต่างๆ มักจะซับซ้อน
เนื่องจากแรงผลักดันทางสังคมต่างๆ เช่น ความสัมพันธ์
ศีลธรรม
ความต้องการส่วนบุคคล
โครงสร้างทางอำนาจ
นั่นหมายความว่า ในสถานการณ์ใดๆก็ตาม
อาจจะมีปัจจัยที่ส่งผลต่อความเป็นจริงมากกว่าหนึ่งปัจจัย
และในการที่เราจะนำเสนอถึงความซับซ้อนนั้น ในงานเขียนของคุณ
ก็คือการหลีกเลี่ยงการสรุปใจความรวมๆ ของหนังสือ
หรือตั้งข้อคิด หรือข้อตัดสินอะไรบางอย่างง่ายๆ เกี่ยวกับตัวละคร
ลองสำรวจด้านต่างๆของเรื่องที่คุณสนใจให้ละเอียด
ให้แน่ใจว่าคุณทราบถึงแรงผลักดันต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ทั้งหมดแล้ว
เพื่อคุณจะได้อธิบาย แรงเสียดทานของปัจจัยต่างๆ
ที่มีต่อเรื่องราวนั้นได้อย่างชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ นวนิยาย ของ โทนี่ มอริสัน เรื่อง Beloved
ตัวละครหลักในเรื่องฆ่าลูกของตัวเอง
แทนที่จะปล่อยให้ลูกโตขึ้นมาในระบบทาส
การกล่าวสรุปรวมๆอาจจะเป็นแบบนี้
เซ็ท ฆ่าลูกสาวของตัวเอง
เป็นการกระทำที่ผิด
และทำให้วิญญานของเด็ก
ตามมาหลอกหลอนเธอตลอดเรื่อง
การสังเกตเหตุการณ์เช่นนี้ธรรมดาเกินไป
และไม่ได้บ่งบอกถึงแรงกระทำต่างๆ
ที่ส่งผลให้ตัวละครทำเช่นนั้น
ลองอะไรแบบนี้ดู
"วัฒนธรรมทาสทำให้ความสามารถ
ในการตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้องถูกสั่นคลอน
ประสบการณ์ในฐานะทาส ที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงของเซ็ท
ทำให้เธอเกิดความวิตกถึงอนาคตของลูกของเธอ
และทำให้การฆาตกรรมลูกของเธอ กลายเป็นความพยายามที่จะปกป้องลูก
เมื่อเรื่องดำเนินต่อไป
เซ็ทยังถูกหลอกหลอนด้วยวิญญานที่โกรธแค้นของลูกสาว
และยังถูกหลอกหลอนจากความทรงจำที่เจ็บปวดต่างๆ
ที่เกิดจากการเป็นทาสของเธอ"
จากบทวิเคราะห์นี้เราเห็นแรงผลักดันต่างๆ
ที่เราวิเคราะห์ออกมาด้วยความสามารถ
ที่จะทำความเข้าใจธรรมชาติที่ซับซ้อน ของประสบการณ์ของมนุษย์
ซึ่งก็ด้วยความสามารถนี้เอง ทำให้เราสามารถเข้าถึง
แนวคิดต่างๆ ที่แสดงความหมายที่อยู่ลึกลงไปในเนื้อเรื่องเหล่านี้
แนวความคิดหลัก ซึ่งในทีนี้น่าจะเป็นการแสดงถึงมาตรวัดที่เรามีต่อสัญชาติญานแห่งความเป็นแม่ของตัวละคร
และผลของความอยุติธรรม
คำถามคือ เราควรหรือไม่ควรจะใช้
หลักจริยธรรม กับการตัดสินสถานการณ์ที่ไร้ซึ่งคุณธรรม
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนั่งลง
และเขียนบทความชิ้นเยี่ยมเกี่ยวกับวรรณกรรมซักเรื่อง
โดยที่ไม่คิดให้ดีเสียก่อน
ก่อนที่คุณจะบิดกุญแจ (เริ่มเขียนงาน)
ลองกลับไปที่เนื้อเรื่อง
แล้วมองหา เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ
แล้วรวบรวมเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ เหล่านั้นที่อยู่ในเนื้อเรื่อง
เอามันมาจัดเรียงเข้าด้วยกันในความคิดของคุณ
ฝึกทักษะการวิเคราะห์ อย่างลึกซึ้ง
รับรู้ถึงความซับซ้อน
แล้วก้าวเข้าไปหาแนวคิดใหญ่
ก่อนที่คุณจะรู้สึกตัว
ความหมายที่ลำลึก ก็จะมาอยู่ใกล้มือคุณแล้ว