Tip:
Highlight text to annotate it
X
ยอดมนุษย์บางคนสามารถวิ่งได้เร็วกว่าลม
นักบินในยานอพอลโล 10 มีความเร็ว
สูงกว่าใคร
คือประมาณ 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
ขณะที่กระสวยกลับเข้าสู่
ชั้นบรรยากาศโลกในปี 1969
เราคงประหยัดเวลาได้มาก
ถ้าเราเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนั้น
แล้วปัญหามันคืออะไรล่ะ?
อากาศนั้นไม่ได้ว่างเปล่า
สสารเช่นออกซิเจน และไนโตรเจน
แม้กระทั่งละอองฝุ่นอันนับไม่ถ้วน
ประกอบกันเป็นอากาศรอบๆ ตัวเรา
เมื่อเราเคลื่อนที่ผ่านสิ่งเหล่านี้ในอากาศ
ตัวเราถูเข้ากับพวกมัน
และเกิดแรงเสียดทานมหาศาล
ซึ่งกลายเป็นความร้อน
เหมือนเช่นที่เราถูมือด้วยกันเพื่อให้มืออุ่น
หรือ เอากิ่งไม้สองชิ้นมาถูกันให้เกิดไฟ
ยิ่งของสองสิ่งถูกันเร็วมากเท่าไหร่
ความร้อนยิ่งเกิดขึ้นมากตามไปด้วย
ดังนั้น ถ้าเราวิ่งด้วยความเร็ว 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
ความร้อนจากแรงเสียดทานจะเผาใบหน้าเราจนหลุด
ถึงแม้เราจะหาทางทนความร้อนได้
ฝุ่นและทรายในอากาศ
ก็คงบาดเรา
เป็นรอยแผลเล็กๆ นับล้าน
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
เคยเห็นกันชนหน้า หรือตะแกรงหน้ารถบรรทุกไหมล่ะ?
คุณคิดว่าเหล่านกและแมลงจะทำอะไร
กับลูกตาในขณะที่คุณลืมตา หรือกับผิวของคุณ
โอเค คุณจะสวมหน้ากาก
เพื่อป้องกันหน้าเสียโฉม
แล้วเหล่าผู้คนในตึกต่างๆ
ที่อยู่ระหว่างคุณกับจุดหมายของคุณล่ะ?
เราใช้เวลาประมาณ 1 ใน 5 ของวินาที
เพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่เรามองเห็น
เมื่อเรามองเห็นว่าอะไรอยู่ข้างหน้า
และจะตอบสนอง
เวลา x ความเร็ว = ระยะทาง
= 1/5 วินาที x 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
= 1.4 ไมล์
เราคงเลยมันไปแล้ว
หรือวิ่งทะลุมันไปกว่าไมล์แล้ว
เราคงฆ่าตัวตาย
โดยการวิ่งชนกำแพงใกล้ๆ ด้วยความเร็วยิ่งยวด
หรือไม่ก็ แย่กว่านั้น ถ้าเราหนังเหนียวคงกระพัน
ตัวเราก็จะเป็นดั่งจรวดมิสไซล์
ที่ทำลายทุกสิ่งที่ขวางทาง
ดังนั้น การเดินทางไกล ที่ความเร็ว 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
จะทำให้เราไหม้เกรียม
เต็มไปด้วยแมลง
และไม่มีเวลาทันให้เราตอบสนองต่อสิ่งกีดขวาง
แล้วถ้าเดินทางระยะสั้นๆ
ไปยังที่ที่เรามองเห็น
และไม่มีอะไรขวางทางล่ะ?
เอาล่ะ สมมุติว่ากระสุนปืน
กำลังจะพุ่งเข้าหาหญิงสาวสวยผู้ตกที่นั่งลำบาก
แล้วยอดมนุษย์ของเราก็โฉบเข้ามาด้วยความเร็วยิ่งยวด
ฉวยเธอ
แล้วอุ้มเธอไปยังที่ปลอดภัย
ฟังดูโรแมนติกมากเลย
แต่ในความเป็นจริง หญิงสาวคนนั้นคงจะได้รับ
บาดเจ็บจากยอดมนุษย์ ยิ่งกว่าจากกระสุนปืนเสียอีก
ถ้าเขาเคลื่อนเธอด้วยความเร็วยิ่งยวด
กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันข้อแรก ว่าด้วยเรื่องความเฉื่อย
ซึ่งก็คือความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลง
ในสถานะของการเคลื่อนไหว
ดังนั้น วัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่
หรือหยุดนิ่ง
จนกว่าจะมีบางอย่างมาเปลี่ยนมัน
ความเร่ง คืออัตราที่ความเร็วเปลี่ยนไปตามเวลา
เมื่อหญิงสาวอยู่นิ่งกับที่
ความเร็ว = 0 ไมล์ต่อชั่วโมง
เริ่มเร่งความเร็วสู่ความเร็วยิ่งยวดภายในไม่กี่วินาที
ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
สู่ 25,000 ไมล์ต่อชั่วโมง
สมองของเธอจะถูกบดขยี้เข้ากับด้านข้างของกระโหลกศีรษะ
และเมื่อเธอหยุดอย่างกะทันหัน
ความเร็วลดลงอย่างรวดเร็วสู่ 0 ไมล์ต่อชั่วโมง
สมองของเธอบดขยี้เข้ากับอีกด้านของกระโหลก
ทำให้สมองของเธอแหลกเหลว
สมองเปราะบางจนทนรับการเคลื่อนไหวแบบกะทันหันไม่ไหว
ส่วนอื่นๆ ของร่างกายเธอก็เช่นกัน
จำไว้ว่า ความเร็วไม่ได้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
เพราะเหล่านักบินอวกาศล้วนรอดชีวิตจากยานอพอลโล 10
ความเร่งต่างหาก
หรือการหยุดอย่างกะทันหัน
ที่ทำใหอวัยวะภายในของเรา
บดเข้ากับด้านหน้าของร่างกาย
เช่นเดียวกับเวลาเราถลาไปด้านหน้าของรถบัส
เมื่อคนขับเหยียบเบรคกะทันหันนั่นเอง
สิ่งที่ยอดมนุษย์ทำกับหญิงสาว
ในทางคณิตศาสตร์นั้น เปรียบได้เหมือนเอาเธอไปชน
กับกระสวยอวกาศที่ความเร็วสูงสุด
เธอคงตายในทันที ณ จุดกระทบ
เขาจะต้องไปขอขมาต่อครอบครัวของเธอ
พร้อมเงินชดเชยก้อนใหญ่
อ้อ แถมอาจต้องติดคุกอีกด้วย
เหล่าแพทย์ยังต้องทำประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
เผื่อไว้ในกรณีที่เขาทำคนไข้เจ็บโดยไม่ตั้งใจ
ฉันสงสัยเหลือเกินว่า ค่าประกันสำหรับยอดมนุษย์จะแพงสักแค่ไหน
ทีนี้ บทเรียนฟิสิกส์ เกี่ยวกับพลังเหนือมนุษย์แบบไหน
ที่คุณอยากเรียนรู้อีก?
ย่อ ขยาย หรือแปลงร่างได้
มีความเร็วยิ่งยวด
บินได้
มีพละกำลังมหาศาล
เป็นอมตะ
และ
ล่องหนได้