Tip:
Highlight text to annotate it
X
ถึงตอนนี้ เราก็ได้เรียนเกี่ยวกับ การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอมไปบ้างแล้วนะครับ
เด๊่ยวเรามาลองดูนะครับว่า เราจะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้น
ในการจัดกลุ่มธาตุในตารางธาตุได้หรือไม่ และลองทายกันดูด้วยว่า
ถ้ามีการทำปฏิกิริยากับธาตุอื่น จะเกิดอะไรขึ้น
เอาล่ะครับ เราลองมาทบทวนเขียน การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอมของธาตุซัก 2 ชนิดกันก่อน
เอาธาตุลิเทียม ตรงนั้นนะครับ
มันจะมีการจัดเรียงอิเล็กตรอนอย่างไรครับ?
การจัดเรียงอิเล็กตรอนของลิเทียม
คุณจะได้ชั้นแรกเท่ากับ 1s2
มี 2 อิเล็กตรอนตรงนั้น
แล้วก็จะได้ 2s1
ถ้าอยากทำแบบเร็ว ๆ
คุณอาจจะดูจากการจัดเรียงอิเล็กตรอนของฮีเลียม
ลิเทียมจะมีการจัดเรียงอิเล็กตรอน เหมือนกับฮีเลียม แต่เพิ่ม 2s1 เข้าไปด้วย
ผมจะเขียนด้วยสีฟ้านะครับ
เขียนว่า [He] 2s1
ซึ่งหมายความว่า
ลิเทียมจะมีการจัดเรียงอิเล็กตรอน เหมือนกับฮีเลียมทุกประการ
แล้วก็เพิ่ม 2s1 เข้าไป
คราวนี้ ลองมาเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอน
ของเหล็กกันดูครับ
แทนที่เราจะไปนั่งทำทีละขั้น เรารู้แล้วว่า
มันจะมี 1s2 แล้วก็ 2s2 กับ 2p6
แทนที่จะต้องนั่งทำทั้งหมด เราแค่ทำอย่างนี้นะครับ
โอเค.. เหล็กมีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเหมือนกับอาร์กอน
ดังนั้น เราจะเขียนอาร์กอนลงในวงเล็บ [Ar]
แล้วก็เพิ่ม 4s2
จากนั้น คุณจะมี 1,2,3,4,5,6 อิเล็กตรอน
ก็จะได้ d6
ซึ่งเราเรียนไปแล้วว่า เวลาที่คุณอยู่ในชั้นพลังงาน d
หรืออยู่ใน d-block ของตารางธาตุ
คุณจะต้องย้อนกลับไปใส่อิเล็กตรอน ในชั้นก่อนหน้านี้
ดังนั้น ตอนนี้เราอยู่ใน period ที่ 4 ใน d-block
เราจะกลับไปที่ระดับพลังงานชั้นที่ 3
ก็จะได้ 3d6
มีบางคนถามมาครับ ซึ่งเป็นคำถามที่น่าสนใจ
ว่าทำไมมันจึงเป็นอย่างนั้น?
ทำไมมันจึงไม่เรียงต่อไปเรื่อย ๆ?
ทำไมอิเล็กตรอนจึงไม่เข้าไปที่ d ออร์บิทัล ของระดับพลังงานชั้นที่ 4
ตามที่ผมคิดนะครับ
ผมคิดว่า.. เมื่ออะตอมมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะมีพื้นที่ระหว่างออร์บิทัลมากขึ้น
ตัวอย่างนะครับ นี่คือสิ่งที่ผมวาดภาพไว้
ถ้าระดับพลังงานชั้นแรกมีหน้าตาคล้ายแบบนี้
และ s เป็นแบบนี้
ส่วน p หน้าตาเป็นแบบนี้
ตรงนี้ให้เป็นระดับพลังงานชั้นที่ 2 นะครับ
p จะมีลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้
จากนั้น อิเล็กตรอนก็น่าจะเข้าไปอยู่ ในระดับพลังงานชั้นที่ 3... ถูกต้องไหมครับ?
ระดับพลังงานชั้นที่ 3 ก็จะเป็นแบบนี้
ซึ่งคุณจะใส่อิเล็กตรอนลงใน p ออร์บิทัล ของระดับพลังงานชั้นที่ 3
นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดนะครับ
อิเล็กตรอนจริง ๆ แล้วไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้
ชั้น 3p อาจจะมีหน้าตาแบบนี้ก็ได้
คล้าย ๆ แบบนี้
หรือคล้าย ๆ แบบนี้
ต่อไปคุณก็ไปที่ระดับพลังงานชั้นที่ 4
ชั้น 4s อาจจะเป็นแบบนี้
จากนั้น แทนที่อิเล็กตรอนจะเข้าไป ที่ชั้น 4p
ตอนนี้คุณอยู่ใน d-block
ให้ผมเขียน 4s ตรงนี้ก่อนนะครับ
นี่คือ 3s
นี่คือ 3p
นี่คือ 2p
นี่คือ 2s
และ 1s ซึ่งอยู่ด้านในของ 2s
คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ
ตามที่ผมคิดว่า ทำไมเราต้องย้อนกลับ ไปใส่อิเล็กตรอนใน d ออร์บิทัลในระดับพลังงานที่ต่ำกว่า
ก็เพราะว่า ตอนนี้ เมื่ออะตอมมีขนาดใหญ่ขึ้น..ใหญ่ขึ้น
คุณมีพื้นที่ระหว่างออร์บิทัลมากขึ้น
ดังนั้ง เมื่อเติมอิเล็กตรอนลงใน 4s ออร์บิทัลแล้ว
4s อยู่ตรงนี้นะครับ
เราจะกลับไปใส่อิเล็กตรอนลงใน 3d ออร์บิทัล
เราจะกลับไปเติมอิเล็กตรอน ลงในพื้นที่ว่างตรงนี้
ซึ่งบริเวณนี้มีระดับพลังงานต่ำกว่าตรงนี้
แต่มันต้องใช้พลังงานมากกว่าในการเติม อิเล็กตรอนลงในชั้น 3d ตรงนั้น
แต่พอคุณเติมอิเล็กตรอนลงใน 3d ออร์บิทัลแล้ว คุณก็พร้อมที่จะไปที่ชั้น 4p
ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้
ดังนั้น อิเล็กตรอนจะเข้าไปที่ชั้นอื่น
คือระดับพลังงานชั้นที่ 4 มากกว่าที่จะ กลับมาที่ชั้น 3d
แต่เมื่อเติมอิเล็กตรอนลงใน ระดับพลังงานชั้นที่ 4 แล้ว
พื้นที่ว่างตรงนั้นถูกเติมเต็มแล้วนะครับ
และเมื่ออะตอมมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ก็จะมีพื้นที่ว่างระหว่างชั้นย่อยนี้มากขึ้น
ในที่สุด เมื่ออะตอมมีขนาดใหญ่พอ
ก็จะเกิดช่องว่างระหว่างชั้น d
ตรงนี้มี d ออร์บิทัล และตรงนี้มี f ออร์บิทัลอยู่
นั่นคือสิ่งที่ผมคิดนะครับ
และแน่นอน เวลาเราพูดถึงอะตอม
ส่วนตัวผม ผมอธิบายได้ดีที่สุดตามนั้นแหละครับ
แต่ประเด็นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการตรงนี้
แต่มันเป็นคำถามที่ดี
ว่าทำไมคุณจึงต้องย้อนกลับไปใส่อิเล็กตรอน ในระดับพลังงานชั้นที่ 3 ทั้ง ๆ ที่เราอยู่ในชั้นที่ 4
ครับ..นี่คือวิธีง่าย ๆ ในการเขียนการจัดเรียง อิเล็กตรอนของเหล็กนะครับ
เหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงเขียนให้ดูทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะหาว่า
มีอิเล็กตรอนอยู่ในชั้นนอกสุดกี่ตัว
สำหรับลิเทียม คุณมีอิเล็กตรอน 1 ตัว ในชั้นนอกสุด ถูกต้องไหมครับ?
ชั้นนอกสุดของคุณอยู่ตรงนี้
คุณมีอิเล็กตรอน 1 ตัว
จากนั้นคุณก็ทำแบบเดียวกันตรงนั้น
ในกรณีของเหล็ก มีอิเล็กตรอนกี่ตัวในชั้นนอกสุดครับ?
จำได้ไหมครับ...ชั้นนอกสุดก็คือ period ที่ธาตุนั้นอยู่นั่นเอง
ดังนั้ นี่คือชั้นนอกสุด
แม้ว่าอิเล็กตรอนตรงนี้จะมีพลังงานมากกว่าก็ตาม
เพราะมันจะต้องใช้พลังงานมากกว่าในการ ใส่อิเล็กตรอนเข้าไปในชั้นพลังงานที่ต่ำกว่า
แต่อิเล็กตรอนตรงนี้ครับ ที่ชั้นนอกสุด หรือชั้นที่ 4
ที่จะเป็นอิเล็กตรอนที่ไปทำปฏิกิริยา
แล้วมีกี่ตัวครับ?
มี 2 ตัว
และนี่คือส่วนสำคัญ
เพราะว่าอิเล็กตรอน 2 ตัวนี้
อิเล็กตรอน 2 ตัวนี้ที่อยู่ชั้นนอกสุด
ซึ่งที่จริงแล้ว จะมีอิเล็กตรอน 2 ตัวในชั้นนอกสุด ของธาตุทุกชนิดในกรอบสีชมพูนี้
ของธาตุทุกชนิดใน d-block นี้ เพราะอะไรครับ?
เพราะว่าคุณใส่อิเล็กตรอนลงใน period ที่คุณอยู่
สมมติว่า คุณอยู่ที่ period ที่ 5 ตรงนี้
ใช่ไหมครับ?
คุณจะได้ 5s1
5s2
จากนั้น คุณก็จะย้อนกลับไปเติมอิเล็กตรอน
ในชั้น 4d
ถูกต้องไหมครับ?
แต่ถ้าถามว่ามีอิเล็กตรอนกี่ตัว
ที่ชั้นนอกสุด ในกรณีของระดับพลังงานชั้นที่ 5
จะพบว่ามี 2 ตัว
ดังนั้น ธาตุทุกตัวตรงนี้จะมีอิเล็กตรอน 2 ตัว อยู่ในชั้นนอกสุดเสมอ
ในกรณีของธาตุเหล่านี้
อิเล็กตรอนในชั้นนอกสุดจะอยู่ที่ 4s2 ใช่ไหมครับ?
เพราะว่าสำหรับอิเล็กตรอนที่เหลือ คุณจะย้อนกลับไปเติมลงในชั้น 3d
ดังนั้น ชั้นนอกสุดก็ยังคงเป็น 4s2
ธาตุนี้ ก็จะมีอิเล็กตรอน 2 ตัวในชั้นนอกสุดเช่นกัน
ธาตุกลุ่มนี้มีกี่ชนิดครับ?
ผมขออนุญาตใช้คำที่ผมไม่เคยใช้มาก่อน
แต่ธาตุกลุ่มนี้เป็นคอลัมน์ในตารางธาตุ
คุณจะเห็นว่า ธาตุเหล่านี้จะมีรูปแบบ การจัดเรียงอิเล็กตรอนคล้ายกัน
ทุกตัวในกลุ่มแรกมีอิเล็กตรอน 1 ตัว ในชั้นนอกสุด
ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ให้ดูที่ไฮโดรเจนนะครับ
การจัดเรียงอิเล็กตรอนของไฮโดรเจน คือ 1s1
ดังนั้น อิเล็กตรอนในชั้นเดียวซึ่งเป็นชั้นนอกสุดคือ 1s
ซึ่งมีอิเล็กตรอน 1 ตัวตรงนี้
ถูกไหมครับ?
ซึ่งนั่นจะเป็นจริงสำหรับธาตุทั้งหมดตรงนี้
ส่วนธาตุทั้งหมดตรงนี้จะมีอิเล็กตรอน 2 ตัว ในชั้นนอกสุด
ส่วนธาตุตรงนี้ก็มีอิเล็กตรอน 2 ตัว ในชั้นนอกสุดเช่นกัน
แต่ว่า จะมีอิเล็กตรอนที่ย้อนกลับไป เติมลงในชั้น d ด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูที่ชั้นนอกสุดแล้ว
ก็จะมีอิเล็กตรอนแค่ 2 ตัวเท่านั้น
ครับ..เมื่อคุณย้อนกลับไป ใส่อิเล็กตรอนเข้าไปที่ d-block
ในกรณีของธาตุใน period ที่ 4 คุณต้องย้อนกลับไปใส่อิเล็กตรอนในชั้น 3d
แล้วก็กลับมาเติมอิเล็กตรอนที่ชั้นที่ 4 อีกครั้ง
เพื่อเติมลงใน p block .. ใช่ไหมครับ?
สำหรับธาตุนี้ ก็จะมีอิเล็กตรอน 3 ตัว
อยู่ในออร์บิทัลด้านนอกนี้
หรืออาจพูดได้กล่าว มี 3 เวเลนซ์อิเล็กตรอน
นี่คือ 4,5,6,7 และ 8
เดี๋ยวผมจะทำให้ดูนะครับ เผื่อว่าคุณยังไม่เชื่อ
สำหรับธาตุ Sn มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนอย่างไรครับ?
นี่คือธาตุอะไรครับ ..ซีลีเนียมใช่หรือเปล่า?
ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน
เอาเป็นว่าธาตุ Sn
มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนอย่างไรครับ?
มันก็จะมีการจัดเรียงอิเล็กตรอน เหมือนกับคริปตอน
ดังนั้น เราจะมาเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอน ของคริปตอนกันก่อน
โดยดูจากตารางธาตุนี้ แต่มีวิธีที่เร็วกว่านั้นอีกนะครับ
เนื่องจากมันมีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเหมือนคริปตอน ดังนั้นก็จะมี 5s2
แล้วย้อนกลับไปเติมใน d-block
ซึ่งเติมได้ 10 ตัว
ดังนั้น จะได้ 4d10
จากนั้น ก็กลับมาเติมในชั้น p-block ที่ระดับพลังงานชั้นที่ 5 อีกครั้ง
จะได้ 5p2
ดังนั้น จะมีอิเล็กตรอนทั้งหมดกี่ตัวครับ
เวเลนซ์อิเล็กตรอน หรือว่าอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุด จะมีกี่ตัวครับ?
อือม.. ชั้นไหนเป็นชั้นนอกสุดครับ?
ชั้นที่ 5 นั่นเอง
อิเล็กตรอนตรงนี้ (4d10) จะมีระดับพลังงานสูงกว่าตรงนั้น
เพราะต้องใช้พลังงานในการจับมันใส่กลับลงไปในชั้นที่ต่ำกว่า
มากกว่าพลังงานที่จะใส่มันลงใน s ออร์บิทัล
แต่ถ้าคุณพูดถึงอิเล็กตรอนที่จะไปทำปฏิกิริยากับสารอื่น
ทำไมผมจึงต้องย้ำตรงนี้
เพราะนี่คืออิเล็กตรอนที่จะไปทำปฏิกิริยากับอะตอมอื่น
หรือกับอิเล็กตรอนอื่น
ธาตุนี้มีอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุด 4 ตัว
คุณจะเห็นตรงนั้นครับ
มีอิเล็กตรอน 4 ตัวอยู่ในชั้นนอกสุด
และเนื่องจากอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุดนี้
ส่วนใหญ่แล้วเป็นอิเล็กตรอนที่เราจะให้ความสำคัญ
ผมว่า..คุณอาจจะบอกว่า ถ้าอย่างนั้น เราวาดเฉพาะอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุดได้หรือไม่?
ตัวอย่างเช่น.. สำหรับไฮโดรเจน คุณก็เขียนแบบนี้
โดยวาดเฉพาะอิเล็กตรอนในชั้นนอก หรือเวเลนซ์อิเล็กตรอนนั่นเอง
เวเลนซ์อิเล็กตรอนเป็นแค่อิเล็กตรอนชั้นนอกสุด
คุณอาจเขียนแบบนั้นก็ได้
แต่สำหรับไฮโดรเจน มันมีระดับพลังงานแค่ชั้นเดียวอยู่แล้ว
งั้นถ้าผมจะเขียนเวเลนซ์อิเล็กตรอนสำหรับเหล็กล่ะครับ?
เหล็ก...อยู่ตรงนี้?
ผมจะเขียนอย่างไร?
ผมมีอิเล็กตรอน 2 ตัวอยู่ในชั้นนอกสุด
ดังนั้น ก็จะเขียนแบบนี้
และส่วนใหญ่แล้วอิเล็กตรอนมักจะอยู่เป็นคู่
ดังนั้น ถ้าสมมติว่าผมจะเขียนเวเลนซ์อิเล็กตรอนของ..
คาร์บอนละกันครับ..
คาร์บอน มีอิเล็กตรอน 4 ตัวที่ชั้นนอกสุด
ดังนั้น ก็จะเขียนได้แบบนี้
หรือถ้าไม่ต้องการเขียนอิเล็กตรอนเป็นคู่ ในทางทฤษฎีก็อาจเขียนแบบนี้ได้เช่นกัน
เอาละครับ ตอนนี้ มันก็พร้อมที่จะทำปฏิกิริยากับ สารอื่นแล้ว
แล้วสิ่งนี้บอกอะไรเราบ้าง?
คุณรู้แล้วนะครับว่า ธาตุนี้มีอิเล็กตรอน 1 ตัวที่ชั้นนอกสุด
ส่วนธาตุในช่องสีฟ้านี่ เป็นก๊าซเฉื่อย
มีอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุด 8 ตัว ซึ่งเราจะพูดถึงเล็กน้อยในตอนต่อไป
สิ่งนี้จะช่วยบอกอะไรแก่เรา ถ้าเราต้องการจะดูว่าสารต่าง ๆ ทำปฏิกิริยากันอย่างไร?
ครับ.. เราพบว่า อะตอมที่มีอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุด 8 ตัวนั้น
ตัวเลขนี้สำคัญนะครับ...เลข 8
ซึ่งเป็นรูปการจัดเรียงอิเล็กตรอนที่คงตัวที่สุดของอะตอม
หรืออาจพูดได้ว่า เป็นสถานะของระดับพลังงาน ที่ดีกว่า สำหรับอะตอม
แล้วทำไมจึงต้องเป็นเลข 8?
ผมคิดว่าอย่างนี้นะครับ
นี่เป็นตัวเลขพื้นฐานที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ
และผมก็ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นิดหน่อย
มันจะต้องเป็นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอะตอม ในชั้นนอกสุด
เมื่อคุณมีอิเล็กตรอน 8 ตัว มันจะอยู่ร่วมกับอิเล็กตรอนด้วยกันได้ดี
และไม่รบกวนกัน
หรือไม่อยากจะผลักไสไล่ส่งกันเอง
ผมไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไรดี
พูดตรง ๆ นะครับ.. ถ้าใครอยากจะรู้คำตอบจริง ๆ
ว่าทำไมต้องเป็นเลข 8 น่าจะไปเรียนต่อในสาขาฟิสิกส์หรือเคมีครับ
แต่จากการทดลอง มีหลักฐานชัดเจนครับว่า
อะตอมต้องการอิเล็กตรอน 8 ตัว ในชั้นนอกสุด
ดังนั้น ถ้าถามว่า .. หากเราจะดูธาตุบางชนิด
ตัวอย่างเช่น โปแทสเซียม
โปแทสเซียมมีอิเล็กตรอน 1 ตัวในชั้นนอกสุด
และถ้าเรามีคลอรีน ซึ่งมีอิเล็กตรอน 7 ตัวอยู่ในชั้นนอกสุด
คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ ถ้าคุณเอาโปแทสเซียมมาอยู่ใกล้ ๆ กับคลอรีน?
จะเกิดอะไรขึ้นครับ?
ครับ..ทางที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คลอรีนมีอิเล็กตรอน ครบ 8 ตัว ทำได้อย่างไรครับ?
ตอนนี้ คลอรีนมีอิเล็กตรอนอยู่ในชั้นนอกสุด อยู่แล้ว 7 ตัว
ทางที่ง่ายที่สุดคืออะไรครับ?
ครับ.. มันก็ต้องอยากได้อิเล็กตรอนเข้ามา ใจจะขาดเลยครับ
แล้วสำหรับโปแทสเซียมล่ะครับ วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้มันมีอิเล็กตรอนครบ 8 ตัว?
ครับ.. ถ้ามันยอมเสียอิเล็กตรอนไป 1 ตัว
มันก็จะมีอิเล็กตรอน 8 ตัวในชั้นนอกสุด ..ถูกต้องไหมครับ?
แต่ว่าชั้นนอกสุดของมันก็จะไม่ใช่ชั้นที่ 4 อีกต่อไป
แต่จะเป็นชั้นที่ 3
แต่มันจะมีอิเล็กตรอนครบ 8 ตัวในชั้นที่ 3
ซึ่งทำให้การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอมของมัน เหมือนกับอาร์กอน
ถ้ามันเสียอิเล็กตรอนไป 1 ตัว
ทำให้มันอยู่ในสภาวะที่คงตัวมากขึ้น
ดังนั้น ถ้าคุณใส่โซเดียมลงไปในคลอรีน จะเกิดอะไรขึ้นครับ?
อิเล็กตรอนตัวนี้ก็จะอยากกระโดดออกจากโซเดียม ใจจะขาด
จะได้มีอิเล็กตรอนในชั้นนอกสุด 8 ตัว
และมีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเหมือนกับอาร์กอน
และอิเล็กตรอนตัวนั้นจะกระโดดไปหาคลอรีน
ซึ่งก็จะทำให้คลอรีนมีอิเล็กตรอนชั้นนอกสุด ครบ 8 ตัวเช่นกัน คล้ายกับอาร์กอน
คุณคงมองเห็นภาพนะครับ
ธาตุกลุ่มนี้ เรียกว่า โลหะอัลคาไล
ซึ่งเราอาจจะได้พูดในวิดีโอตอนต่อไปว่า
ทำไมมันจึงจัดเป็นโลหะ
ธาตุกลุ่มนี้เรียกว่า โลหะอัลคาไล
ซึ่งจะไม่รวมไฮโดรเจนนะครับ
ซึ่งเราจะพูดถึงเรื่องนี้กันอีที
ธาตุเหล่านี้ต้องการที่จะให้อิเล็กตรอน
ดังนั้นจึงทำให้มันมีความไวต่อการเกิดปฏิกิริยาสูงมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณใส่มันลงไป ในธาตุในกลุ่มสีเหลืองตรงนี้
ซึ่งเรียกว่า ฮาโลเจน
ซึ่งเป็นธาตุที่อยากได้อิเล็กตรอนมาก ๆ
เพื่อให้มันมีอิเล็กตรอนชั้นนอกสุดครบ 8 ตัว
โดยปกติธาตุกลุ่มอัลคาไล จะอยากให้อิเล็กตรอนมาก
เพราะจะทำให้มันมีอิเล็กตรอน ชั้นนอกสุด 8 ตัว
และเหตุผลว่าทำไมไฮโดรเจน จึงไม่ถูกรวมไว้ในธาตุกลุ่มอัลคาไล
ก็เพราะว่า ไฮโดรเจนไม่ได้ อยากให้อิเล็กตรอนมากเหมือนธาตุกลุ่มนี้
กฎข้อนี้..ที่บอกว่าอะตอมอยากมี อิเล็กตรอนในชั้นนอกสุดเท่ากับ 8 นี้
ใช้ได้กับธาตุุทุกชนิด ยกเว้น...
ไฮโดรเจน และฮีเลียม
ไฮโดรเจนและฮีเลียม เพราะว่าทั้งสองตัวนี้มีระดับพลังงานเพียงชั้นเดียว
ดังนั้น มันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว กับการมีอิเล็กตรอน 2 ตัว
สำหรับไฮโดรเจนนั้น มันอาจจะให้หรือรับอิเล็กตรอนก็ได้
เพราะจะทำให้มันมีอิเล็กตรอน เต็มระดับพลังงานชั้นแรก
แต่สำหรับธาตุอื่น..โลหะอัลคาไลตรงนี้
จะอยากให้อิเล็กตรอนมาก
เวลาเราพูดกันในทางเคมี เกี่ยวกับลักษณะของโลหะ
ก็จะบอกว่าโลหะเป็นธาตุที่ อยากให้อิเล็กตรอนมาก
เอาละครับ..ผมว่าเราหมดเวลาแล้ว
ในตอนต่อไป เราจะมาพูดกันต่อ เกี่ยวกับ "group" ในตารางธาตุ
และแนวโน้มของคุณสมบัติของธาตุ ที่เราบอกได้จากตารางธาตุนี้นะครับ