Tip:
Highlight text to annotate it
X
ยินดีต้อนรับสู่วิดีโออบรมเรื่องรูปแบบการพยากรณ์ผลของกลาสโกว หรือ GOS และ GOS-E (หรือ GOS แบบขยาย) ของไซแนปส์
GOS คือคะแนนชี้วัด 5 คะแนนที่ใช้ในการประเมินผล อัตราความพิการของผู้ป่วยหลังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ (หรือ TBI)
โดยชื่อนี้ได้มาจากเมืองกลาสโกว ประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่มีการใช้การประเมินผลดังกล่าวเป็นครั้งแรก
ในการวิจัยของไซแนปส์ เราจะใช้ GOS ในการ ประเมินผลหลักที่ 6 เดือนหลังได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งจะประเมินระดับสมรรถภาพของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บทางสมอง
และไม่ได้ประเมินระดับสมรรถภาพของผู้ป่วย ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บอื่นๆ ที่ผู้ป่วยได้รับ
GOS คือค่าผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดของการศึกษา
และเราขอขอบคุณที่คุณตั้งใจศึกษาการนำเสนอบทเรียนในครั้งนี้
GOS-E คือคะแนนชี้วัด 8 คะแนน ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก GOS
ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความละเอียดอ่อน และถูกนำไปใช้เพื่อประเมินผลเป้าหมายรองของการศึกษาครั้งนี้
เพื่อช่วยยืนยันการประเมินแบบ GOS
ทั้ง GOS และ GOS-E จะได้รับการประเมินที่ 3 และ 6 เดือนหลังได้รับบาดเจ็บ
สิ่งแรกที่ต้องบันทึกคือ ข้อมูลพื้นฐานก่อนการได้รับบาดเจ็บ
โดยต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 14 วันจากวันที่ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ
นี่เป็นรากฐานของการประเมิน GOS และ GOS-E
และจะทำให้คุณสามารถประเมินผลการเปลี่ยนแปลงสถานะของผู้ป่วย นับจากการได้รับบาดเจ็บจนถึง 6 เดือนได้อย่างแม่นยำ
หากไม่มีข้อมูลพื้นฐาน การประเมินว่า การบาดเจ็บทางสมองส่งผลต่อผู้ป่วยอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เนื่องจากข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้องแม่นยำเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
จงเก็บข้อมูลในขณะที่สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยอยู่ในอารมณ์สงบ
โดยอาจเลือกใช้ห้องส่วนตัวที่เงียบๆ เพื่อถามคำถาม
ข้อมูลที่บันทึกในแบบฟอร์มนี้
ที่อยู่ในแฟ้มเอกสารของผู้วิจัยและในส่วน Your Toolbox ใน eRounds
ต้องเป็นข้อมูลที่ละเอียดและเพียงพอสำหรับนักประเมินผลอิสระ
เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสถานะทางอาชีพของผู้ป่วย
รวมทั้งทักษะทางสังคม กิจวัตรประจำวัน วิธีการเดินทาง และอาการโดยทั่วไปก่อนได้รับบาดเจ็บ
คุณอาจใช้เวลาในการเก็บข้อมูลดังกล่าวจากประวัติทางการแพทย์
การพูดคุยกับเพื่อนๆ ญาติ สมาชิกที่ใกล้ชิดในครอบครัว และผู้ให้การดูแลผู้ป่วย
เมื่อเราได้อธิบายถึงการบันทึกข้อมูลฐานแล้ว
วิดีโอนี้จะอธิบายต่อถึงการได้มาซึ่งคะแนน GOS และ GOS-E
แบบฟอร์มข้อมูลฐานและคำถาม GOS และ GOS-E สำหรับ 3 และ 6 เดือนนั้น ได้รับการออกแบบมาเช่นเดียวกัน
เนื่องจากมาตรประมาณค่ามีพื้นฐานมาจาก การเปรียบเทียบรายการแต่ละรายการในแบบฟอร์ม
กรุณาอ่านคู่มืออ้างอิงของ GOS และ GOS-E สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
โดยคู่มือดังกล่าวก็อยู่ในส่วน Your Toolbox ใน eRounds เช่นกัน
การประเมิน GOS ขึ้นอยู่กับการตีความเชิงอัตวิสัย และอาจแตกต่างกันไประหว่างผู้ให้คะแนน
เราคิดว่าการมีผู้ให้คะแนนอีกคนหนึ่ง จะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมคุณภาพภายใน
ดังนั้น เพื่อความเสมอต้นเสมอปลาย ข้อมูลก่อนได้รับบาดเจ็บ
และการประเมิน GOS และ GOS-E สำหรับ 3 และ 6 เดือน จะได้รับการตรวจสอบโดยสมาคมการบาดเจ็บทางสมองแห่งอเมริกา หรือ ABIC
ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลเพื่อความแน่ใจว่า ความลำเอียงและความไม่สอดคล้องจะถูกลบออกไปจากการให้คะแนน
จากข้อมูลที่ให้ ผู้ให้คะแนนอิสระน่าจะให้คะแนนเท่ากับที่คุณให้
การให้ความสำคัญกับการตรวจสอบอิสระ คือผลลัพธ์ของขั้นตอนการประเมินนี้
ซึ่งจะตัดสินว่า
(1) มีการบันทึกข้อมูลทั้งก่อนหรือหลังได้รับบาดเจ็บในทุกๆ ประเภท อย่างเพียงพอหรือไม่ต่อการได้มาซึ่งผลการประเมินที่ถูกต้องแม่นยำ
และ (2) การให้คะแนน GOS และ GOS-E สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้หรือไม่
ABIC จะส่งคำถามใดๆ ที่มีผ่านทาง DataLabs หลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบอิสระ
อย่างไรก็ตาม คุณจะเป็นผู้ตัดสินคะแนน GOS และ GOS-E ในท้ายที่สุด
ตอนนี้เราจะแสดงให้คุณเห็นถึง ตัวอย่างการสัมภาษณ์เพื่อประเมินผล GOS และ GOS-E
หลังการถามคำถาม เราจะอภิปรายถึงคำตอบที่ผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัวให้
การแนะนำตนเองอีกครั้งในฐานะผู้สัมภาษณ์เป็นสิ่งสำคัญ
เตือนให้ผู้ป่วยและครอบครัวทราบว่า คุณจะถามคำถามเดียวกับที่คุณถามไปแล้วเมื่อ 3 เดือนก่อน
คำถามแรกจะถามเกี่ยวกับสถานะการทำงาน
เราต้องการทราบว่าผู้ป่วยกลับไปมีสถานะการทำงานเช่นเดิม โดยมีความรับผิดชอบในระดับเดียวกับตอนก่อนได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ผู้ป่วยในตัวอย่างจะกลับไปทำงานในอีกไม่นาน โดยวางแผนที่จะทำงานพาร์ทไทม์
แล้วจะค่อยๆ เพิ่มเวลาทำงานกลับไปเป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
แม้เขาจะรู้สึกว่าสามารถกลับไปทำงานเต็มเวลาได้
แต่เขาตัดสินใจอย่างมีสติว่าจะเริ่มต้นอย่างช้าๆ
ศัลยแพทย์ระบบประสาทของเขาอนุญาตให้เขากลับไปทำงานได้
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ เราจะเลือกตัวเลือก B
“ผู้ป่วยได้รับสถานะการทำงานตอนก่อนได้รับบาดเจ็บกลับคืน
แต่การปฏิบัติงานขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ลดลง เนื่องจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาเหตุทางสมอง”
คุณควรบันทึกอย่างละเอียดในรายงาน
ถึงแผนการกลับไปทำงานของผู้ป่วยตามที่ครอบครัวของเขากล่าวถึงในวิดีโอ
คำถามที่สองจะประเมินถึงขีดความสามารถทางสังคมของผู้ป่วย
ผู้ป่วยของเราได้กลับไปทำกิจกรรมทางสังคมในระดับปัจจุบัน
แต่เขากล่าวเพิ่มว่าเพื่อนๆ จะมาที่บ้านเพื่อสังสรรค์ เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นสิ่งที่สะดวกกว่าสำหรับครอบครัว
เราจะเลือก “ใช่”
และบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ครอบครัวชอบให้แขกมาที่บ้านเพื่อการสังสรรค์
เราควรถามคำถามติดตามเพื่อทำความเข้าใจว่า ทำไมครอบครัวจึงชอบให้แขกมาที่บ้าน
เพราะการไม่ออกไปข้างนอกอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ซ่อนอยู่ ที่เกี่ยวข้องกับการได้รับบาดเจ็บทางสมอง
การทราบสาเหตุที่แน่ชัดต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บทางสมองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เราถามคำถามข้อ 3 เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ด้านความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือไม่
ผู้ป่วยของเราไม่ได้ระบุว่ามีการติดขัดหรือความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม ภรรยาของเรากล่าวว่าเขามีอาการ กระวนกระวายในตอนกลางคืน แต่ก็ค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว
การติดขัดข้อนี้ไม่ได้นำไปสู่การมีปากเสียงหรือทะเลาะกัน ที่แตกต่างไปจากตอนก่อนเกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะ
ผู้สัมภาษณ์ควรถามคำถามติดตามเพื่อดูว่า ผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิดกี่ครั้งต่อสัปดาห์
เราจะให้คะแนนความตึงเครียด/การติดขัดของผู้ป่วยนี้ว่าเกิดขึ้นเป็น “บางครั้ง”
เนื่องจากภรรยาของเขาบอกว่ามันเกิดขึ้นไม่บ่อยและเป็นสิ่งที่เธอรับได้แน่นอน
นอกจากนี้ เราต้องบันทึกข้อมูลที่ได้จากภรรยาของเขาโดยละเอียด
คำถามต่อไปจะประเมินกิจวัตรประจำวันภายในบ้าน
ผู้ป่วยของเราได้กลับไปพึ่งตนเองในการทำกิจกรรมในบ้านทั้งหมด และสามารถอยู่คนเดียวได้นานกว่า 8 ชั่วโมง
ภรรยาของเขากล่าวเพิ่มว่าเธอเคยไปค้างนอกบ้านหนึ่งคืน และทิ้งให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีปัญหา
เราควรบันทึกข้อมูลนี้และเลือก “ใช่” ในคำถามที่ว่า
“สมาชิกในครอบครัวสามารถปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวในบ้าน เป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงในเวลากลางวันหากจำเป็นได้หรือไม่”
คำถามต่อไปจะประเมินระดับการพึ่งตนเองของผู้ป่วยนอกบ้าน
รวมทั้งความสามารถในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การขับรถเอง หรือจับจ่ายซื้อของด้วยตนเอง
ผู้ป่วยของเราขับรถโดยมีสมาชิกในครอบครัวขึ้นรถไปด้วย
แต่เขาคิดว่าเขาสามารถขับรถคนเดียวได้หากจำเป็น ภรรยาของเขาก็เห็นด้วย
ผู้ป่วยของเราสามารถจับจ่ายซื้อของคนเดียวได้ และจับจ่ายซื้อของด้วยตนเองได้หากจำเป็น
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยไม่ได้จับจ่ายซื้อของ และทำงานบ้านบ่อยนักก่อนได้รับบาดเจ็บ
เราจะตอบ “ใช่” ในคำถามที่ว่า “ผู้ป่วยสามารถขับรถเองหรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
เช่นรถประจำทางหรือเรียกแท็กซี่เองโดยไม่มีผู้ช่วยเหลือได้หรือไม่”
และ “ผู้ป่วยสามารถจับจ่ายซื้อของเองโดยไม่มีผู้ช่วยเหลือ ได้หรือไม่” และบันทึกรายละเอียดลงในรายงาน
คำถามสุดท้ายจะเปิดโอกาสให้คุณทราบถึง ความบกพร่องเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นทางกายภาพหรือสภาพจิต
หรือปัญหาทางสุขภาพทั่วไปที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันหลังการบาดเจ็บที่ศีรษะ
ในตอนแรกผู้ป่วยของเรากล่าวว่าเขาจำได้ว่า ไม่มีสิ่งใดที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเขาหลังการบาดเจ็บ
แต่ต่อมาเขาระบุว่าเขาเหนื่อยง่ายขึ้นและมีกำลังน้อยลงหลังการบาดเจ็บ
และเขายังมีความรู้สึกไวต่อแสง
โดยทั่วไป ผู้ป่วยกล่าวว่าแม้เขาจะได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่เขารู้สึกว่าเขาดีขึ้นมากตลอดหกเดือนที่ผ่านมา
เราจะเลือก “ใช่” ในคำถามเกี่ยวกับปัญหาเพิ่มเติม
เนื่องจากผู้ป่วยมีความรู้สึกไวต่อแสงมากขึ้น และบันทึกข้อมูลที่เจาะจงลงในช่องความคิดเห็น
เมื่อเราทำการสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการทำการประเมิน GOS และ GOS-E
ขั้นตอนต่อไปคือการกรอกแบบฟอร์ม GOS ใน DataLabs
หลังจากที่คุณใส่ข้อมูลและคำอธิบายทั้งหมดลงไป แบบฟอร์มจะแสดงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ห้าข้อ ได้แก่
1) มีโอกาสหายเป็นปกติ
2) พิการปานกลาง
3) พิการอย่างรุนแรง
4) อยู่ในสภาพ “ผัก”
หรือ 5) เสียชีวิต
แน่นอนว่าสามข้อแรกเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้
จากคำตอบที่คุณใส่ลงไปในแบบฟอร์ม GOS คุณต้องทำผลการประเมิน
ถ้าคุณตอบ “ใช่” สำหรับคำถาม GOS ทั้ง 6 ข้อ ผลการประเมินคือ มีโอกาสหายเป็นปกติ
ถ้าคุณตอบ “ไม่ใช่” ในข้อ 1 และ 2 และ “ใช่” ในข้อ 3, 4, 5 และ 6
ผลการประเมินคือ พิการปานกลาง
เราจะเลือก พิการอย่างรุนแรง เมื่อคำถามใดๆ ในข้อ 3, 4, 5 มีคำตอบเป็น “ไม่ใช่”
และคนไข้ไม่ได้อยู่ในสภาพ “ผัก”
แล้วคะแนน GOS ของผู้ป่วยคนนี้เป็นอย่างไร
เข้าสู่ระบบที่ eRounds เพื่อตอบคำถามนี้ด้วยตัวคุณเอง และดูคำตอบที่ถูกต้อง
ถ้าคุณตอบถูก เราจะให้ดาว 25 แต้มเป็นรางวัลแก่คุณ
เมื่อคุณได้ผลการประเมิน GOS แล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะทำการประเมิน GOS-E
GOS-E มีความแตกต่างดังนี้
1) มีโอกาสหายเป็นปกติสูง
2) มีโอกาสหายเป็นปกติต่ำ
3) พิการปานกลางและมีโอกาสหายสูง
4) พิการปานกลางและมีโอกาสหายต่ำ
5) พิการอย่างรุนแรงและมีโอกาสหายสูง
และ 6) พิการอย่างรุนแรงและมีโอกาสหายต่ำ
เพิ่มเติมจากข้อ 7) อยู่ในสภาพ “ผัก” และ 8) เสียชีวิต
หากผู้ป่วยของคุณอยู่ในขั้น “มีโอกาสหายเป็นปกติ” ใน GOS
คุณต้องตอบคำถาม GOS-E เพิ่มเติมเพื่อตัดสินว่า มีโอกาสหายเป็นปกติ “สูง” หรือ “ต่ำ”
ซึ่งคุณต้องทำเช่นเดียวกันเมื่อคุณให้คะแนน “พิการปานกลาง” หรือ “พิการอย่างรุนแรง” ในแบบฟอร์ม GOS
การตัดสินประเภทของ GOS ก่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
ต่อมา (หากเกี่ยวข้อง) จึงเลือกคะแนน “สูง” หรือ “ต่ำ” ในประเภทนั้นๆ
คุณต้องให้คะแนน “สูง” หรือ “ต่ำ” โดยดูจากผลที่ได้จาก GOS
“มีโอกาสหายเป็นปกติสูง” หมายความว่าผู้ป่วยได้กลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ
และไม่มีปัญหาใดๆ ในปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
เช่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มีความรู้สึกไวต่อเสียงหรือแสง มีความเชื่องช้า ความจำล้มเหลว และมีปัญหาเรื่องสมาธิ
“มีโอกาสหายเป็นปกติต่ำ” หมายถึงผู้ป่วยได้กลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ (ส่วนใหญ่)
แต่มีปัญหาบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
เช่น เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มีความรู้สึกไวต่อเสียงหรือแสง มีความเชื่องช้า ความจำล้มเหลว และมีปัญหาเรื่องสมาธิ
โดยต้องกลับไปทำกิจกรรมทางสังคมอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของที่เคยทำ
และผู้ป่วยควรมีความติดขัดหรือความตึงเครียดไม่เกินสัปดาห์ละครั้ง
ผู้ป่วยที่ “พิการปานกลางและมีโอกาสหายสูง” จะกลับไปทำงานบ้างในระดับที่ลดลง
และ/หรือหากเป็นนักศึกษา ก็จะกลับไปเรียนต่อในระดับที่ลดลง
นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ “พิการปานกลางและมีโอกาสหายสูง” อาจกลับไปทำกิจกรรมทางสังคมในระดับที่ลดลง
และ/หรือมีความติดขัดหรือความตึงเครียด กับครอบครัวและเพื่อนๆ บ่อยครั้งแต่ไม่สม่ำเสมอ
ผลการประเมินและเกณฑ์เหล่านี้จะเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยไม่มีงานทำก่อนการบาดเจ็บ
เช่น ผู้เกษียณอายุ แม่บ้าน ผู้ที่ลางานเนื่องจาก ไร้ความสามารถเป็นระยะเวลานาน และอื่นๆ
ผู้ป่วยที่ “พิการปานกลางและมีโอกาสหายต่ำ” จะพึ่งตนเองได้ แต่ไม่สามารถทำงานได้ หรือทำงานได้แต่ในโรงงานอารักษ์เท่านั้น
พวกเขาแทบจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม และอาจมีความติดขัด หรือความตึงเครียดกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอ
ผู้ป่วยที่ “พิการอย่างรุนแรงและมีโอกาสหายสูง” ได้แก่ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นประจำ
พวกเขาไม่สามารถเดินทางใกล้ๆ โดยไม่มีผู้ช่วย และไม่สามารถจับจ่ายซื้อของได้ด้วยตนเอง
แต่สามารถปล่อยให้อยู่คนเดียวเป็นเวลา 8 ชั่วโมงหรือมากกว่าหากจำเป็นได้
ผู้ป่วยที่ “พิการอย่างรุนแรงและมีโอกาสหายต่ำ” จำเป็นต้องมีผู้ช่วยอย่างสม่ำเสมอเกือบตลอดเวลาที่บ้าน และไม่สามารถปล่อยให้อยู่คนเดียวเป็นเวลา 8 ชั่วโมงหรือมากกว่าได้
นี่เป็นผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดที่ได้จากแบบประเมิน GOS-E นอกเหนือจากการเสียชีวิตและการมีสภาพเป็น “ผัก”
แล้วคะแนน GOS-E ของผู้ป่วยรายนี้คืออะไร
เข้าสู่ระบบที่ eRounds เพื่อตอบคำถามนี้ด้วยตัวคุณเอง และดูคำตอบที่ถูกต้อง
ถ้าคุณตอบถูก เราจะให้ดาว 25 แต้มเป็นรางวัลแก่คุณ
สุดท้ายนี้ เราจะมาทบทวนข้อมูลที่สำคัญ ดังนี้
จำไว้เสมอว่าการลดคะแนน GOS ใดๆ ก็ตาม ควรเป็นผลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบาดเจ็บที่ศีรษะ
เช่น หากผู้ป่วยไม่สามารถขับรถหรือทำงานได้ เนื่องจากการบาดเจ็บที่ขา สิ่งนี้ไม่ควรมีผลต่อคะแนน GOS
หากคุณไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากผู้ป่วยหรือสมาชิกในครอบครัว
ขอให้พวกเขาให้ความกระจ่างและรายละเอียดเพิ่มเติม
นอกจากนี้ หากคุณรู้สึกว่าคำตอบที่คุณได้รับมีความแตกต่าง
เนื่องจากระดับสมรรถภาพในด้านหนึ่ง ดูเหมือนจะไม่สอดคล้องกับอีกด้านหนึ่ง
โปรดถามคำถามเจาะลึก
อย่าลืมดูข้อมูลฐานที่คุณบันทึกภายใน 14 วันจากวันที่ได้รับบาดเจ็บ และผลลัพธ์ 3 เดือนของ GOS และ GOS-E
นำข้อมูลดังกล่าวไปด้วยในการสัมภาษณ์
สิ่งที่สำคัญมากคือการทำความเข้าใจว่า ผู้ป่วยของคุณมีสมรรถภาพอย่างไรก่อนการบาดเจ็บ
และผลการประเมินปัจจุบัน 3 หรือ 6 เดือน จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับสถานะของผู้ป่วยก่อนการบาดเจ็บ
ไม่ใช่อาการที่เกิดขึ้นทันทีที่ได้รับบาดเจ็บ หรือการประเมินผลก่อนหน้า เช่น การประเมินผลแบบ 3 เดือน
สำหรับการประเมินผล GOS-E เราจะพิจารณาแต่ คำถามที่เกี่ยวข้องกับประเภทของ GOS ที่เลือกไว้แล้วเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณให้คะแนน “พิการปานกลาง” ใน GOS
คุณจะต้องใช้ลักษณะใน GOS-E ที่เกี่ยวกับความพิการปานกลาง ที่มีโอกาสหายสูงและต่ำที่มีอยู่ในใบคะแนน GOS-E เพื่อทำผลการประเมิน
เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
คุณต้องเก็บข้อมูลฐานภายใน 14 วันนับจากวันที่ได้รับบาดเจ็บ
การประเมินแบบ 90 วันจะต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 90 วันหลังการบาดเจ็บ โดยอาจบวกหรือลบ 14 วันระหว่างการเยี่ยมเยี่ยนด้วยตนเอง
การประเมินแบบ 180 วัน ซึ่งเป็นการประเมินครั้งสุดท้ายและครั้งสำคัญ จะต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 180 วันหลังการบาดเจ็บ โดยอาจบวกหรือลบ 28 วันระหว่างการเยี่ยมเยี่ยนด้วยตนเอง
ถ้าคุณต้องการทดสอบความสามารถของตนเองในการให้คะแนน GOS และ GOS-E
เรามีเคสตัวอย่างหลายเคสใน eRounds ที่อยู่ใต้ Training Tab สำหรับคุณ.
ขอบคุณที่สละเวลา
ถ้าคุณมีคำถามเกี่ยวกับ GOS หรือ GOS-E กรุณาติดต่อผู้ดูแลสถานวิจัยของคุณ
เราอยากขอขอบคุณมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กและคุณอัลลิสัน ไฮริก สำหรับความช่วยเหลือในการทำวิดีโออบรมชิ้นนี้จนสำเร็จลุล่วง